แทงบอล พาร์เลย์ คือคำที่หลายคนอาจเคยเห็นผ่านหูผ่านตามาจากเว็บต่างประเทศ แต่พอถามว่าเหมือนกับบอลสเต็ปหรือไม่? คำตอบคือ ใช่และไม่ใช่ในเวลาเดียวกัน และบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจการ แทงบอล อย่างลึกซึ้งว่า บอลพาร์เลย์กับบอลสเต็ปคือสิ่งเดียวกันในหลักการเดิมพัน แต่ต่างกันในรายละเอียดของคำเรียก การใช้งาน และระบบการคิดกำไร โดยเฉพาะหากคุณต้องการเล่นแบบมืออาชีพกับเว็บนอก หรือเว็บที่ใช้ค่าน้ำแบบ Decimal / American Odds
เราจะพาคุณไปตั้งแต่ความหมาย คำศัพท์ วิธีเล่น ไปจนถึงการคำนวณกำไรแบบ step-by-step พร้อมตารางจำลองและตัวอย่างจริงที่คุณสามารถใช้วิเคราะห์บิลของตัวเองได้เลยทันที แม้จะเรียกต่างกัน แต่บอล พาร์เลย์ และ บอลสเต็ป คือการเดิมพันแบบรวมหลายคู่ในบิลเดียวเหมือนกันทุกประการ จุดที่ต่างกันคือวิธีการเรียกใช้ ในบริบทไทยและสากล รวมถึงวิธีแสดงค่าน้ำและการคำนวณกำไร บทความนี้จะอธิบายทุกจุดให้คุณเข้าใจได้ภายในครั้งเดียว
พาร์เลย์ คืออะไร? ทำไมหลายคนสับสนกับคำว่าสเต็ป
แม้ว่าการแทงบอลแบบ พาร์เลย์ และบอลสเต็ป จะดูเหมือนเป็นคนละคำ แต่ในโลกของการเดิมพันกีฬา ทั้งสองคำนี้พูดถึงสิ่งเดียวกัน การแทงบอลแบบหลายคู่รวมไว้ในบิลเดียว แล้วลุ้นให้เข้าทุกคู่ เพื่อให้ได้กำไรแบบตัวคูณต่อเนื่อง
📜 Etymology Compare (EN–TH)
คำศัพท์ |
ใช้ในประเทศไหน |
ความหมาย |
Parlay |
สากล (เว็บต่างประเทศ, อังกฤษ, อเมริกา) |
การเดิมพันหลายคู่รวมบิลเดียว |
สเต็ป / บอลชุด |
ไทย (เว็บเดิมพันไทย) |
การเดิมพันหลายคู่รวมในบิลเดียว (เหมือน Parlay) |
สรุปง่ายๆ คือ Parlay = สเต็ป แต่แค่ต่างกันที่การเรียก
อย่าเพิ่งตกใจถ้าเปิดเว็บต่างประเทศแล้วไม่เจอคำว่า สเต็ป เพราะเขาเรียกมันว่า พาร์เลย์ จริงๆ แล้วเล่นแบบเดียวกัน แค่พูดคนละภาษาก็เท่านั้น
พาร์เลย์กับบอลสเต็ป: เหมือนหรือแค่คล้าย?
หลายคนสงสัยว่าบอลพาร์เลย์กับ แทงบอลสเต็ป เหมือนกันหรือเปล่า? คำตอบคือ เหมือนในทางปฏิบัติ แต่ต่างในรายละเอียดบางอย่างตามบริบท ทั้งสองคำหมายถึงการเดิมพันแบบ “รวมหลายคู่ไว้ในบิลเดียว” และจะได้กำไรก็ต่อเมื่อทุกคู่ที่เลือกเข้าเต็มทั้งหมด แต่สิ่งที่ต่างกันคือ
รายการเปรียบเทียบ |
พาร์เลย์ (Parlay) |
บอลสเต็ป (Step) |
คำที่ใช้ใน… |
สากล (เว็บต่างประเทศ) | เว็บไทย / ภาษาไทยทั่วไป |
รูปแบบการเดิมพัน |
รวมหลายคู่ใน 1 บิล | เหมือนกันทุกประการ |
การคำนวณกำไร | คูณค่าน้ำแบบ Decimal ต่อเนื่อง | ส่วนใหญ่ใช้ค่าน้ำแบบมาเลย์ (บางเว็บใช้ Decimal) |
จำนวนคู่ขั้นต่ำ |
2 คู่ขึ้นไป |
2 คู่ขึ้นไป (บางเว็บกำหนดขั้นต่ำ 3 คู่) |
โอกาสถูกบิล | ต้องเข้า “ทุกคู่” เท่านั้น |
ต้องเข้า “ทุกคู่” เช่นกัน |
ระบบช่วยคำนวณ | ระบบเว็บคำนวณอัตโนมัติ |
เหมือนกัน |
ในส่วนของเว็บเดิมพัน 95% ของกรณี Parlay = Step = บอลชุด ต่างกันแค่ชื่อ แต่หลักการและวิธีเล่นคือแบบเดียวกันทั้งหมด
วิธีแทง พาร์เลย์ ในเว็บไซต์ UFABET369 : ขั้นตอนสำหรับมือใหม่
ถ้าคุณเคยแทงสเต็ปมาแล้ว การแทงพาร์เลย์ในเว็บก็ไม่ต่างกันมากนัก แค่ต้องเลือกหลายคู่ในบิลเดียว และระบบเว็บจะคำนวณกำไรให้แบบอัตโนมัติ แต่ถ้าหากมือใหม่ที่ต้องการอยากรู้ขั้นตอนการเดิมพันบอล สามารถเข้าไปศึกษาได้ที่ >> วิธีแทงบอล
🧭 Step-by-Step How-to:
- เข้าสู่หน้าแทงบอลของเว็บไซต์
เลือกประเภทกีฬา → ฟุตบอล → รายการแข่งขันที่ต้องการ - เลือกหลายคู่ ที่ต้องการแทง
เมื่อคลิกราคาค่าน้ำของแต่ละทีม ระบบจะนำไปใส่ในบิลรวมโดยอัตโนมัติ - ตรวจสอบบิลด้านขวา (หรือมุมล่างบนมือถือ)
เว็บจะแสดงรายการที่คุณเลือกไว้ พร้อมแสดงรูปแบบ “พาร์เลย์” หรือ “Mix Parlay” - ใส่จำนวนเงินเดิมพัน
กรอกจำนวนเงินที่ต้องการแทง ระบบจะคำนวณยอดกำไรที่อาจได้ให้ทันที - กด วางเดิมพัน หรือ ยืนยันบิล
ตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งก่อนยืนยัน เพราะถ้ากดยืนยันแล้วจะไม่สามารถยกเลิกได้
เริ่มจากเลือก 2–3 คู่ที่คุณมั่นใจ แล้วปล่อยให้ระบบจัดการการคำนวณเอง เพราะแทงบอลพาร์เลย์ไม่ยากอย่างที่คิด แค่เลือกให้แม่น แล้วกำไรก็จะตามมาเอง!
เริ่มลองแทงพาร์เลย์แบบง่ายๆ ได้ที่ UFABET369 เว็บที่ให้ค่าน้ำแบบชัด คำนวณกำไรให้ทันที พร้อมคู่บอลให้เลือกครบทุกลีก
วิธีคำนวณกำไรบอลพาร์เลย์แบบง่าย
หนึ่งในจุดเด่นของการแทงบอลพาร์เลย์ คือ การคูณกำไรแบบทบต่อเนื่อง ยิ่งคุณเลือกหลายคู่ และแต่ละคู่มีค่าน้ำดี → กำไรก็จะยิ่งทวีคูณแบบก้าวกระโดด แต่วิธีคิดจะต่างจากบอลเดี่ยว เพราะต้องเอาค่าน้ำของแต่ละคู่มาคูณต่อกันก่อน แล้วค่อยคูณกับเงินเดิมพัน
Formula FS (สูตรจำง่าย):
กำไรสุทธิ = (ค่าน้ำ1 × ค่าน้ำ2 × ค่าน้ำ3 × … ) − 1 × เงินเดิมพัน
เช่น ถ้าแทง 3 คู่ ค่าน้ำคือ 1.85, 1.90 และ 2.00
สูตรจะเป็น: (1.85 × 1.90 × 2.00) – 1 = 7.03 – 1 = 6.03
นำ 6.03 × เงินเดิมพัน เช่น 100 บาท = กำไร 603 บาท
📦 Calculation Box:
คู่ที่เลือก |
ค่าน้ำ |
ทีม A |
1.85 |
ทีม B |
1.90 |
ทีม C |
2.00 |
วิธีคำนวณ:
1.85 × 1.90 × 2.00 = 7.03
(7.03 – 1) × 100 = 603 บาท
💰 หากถูกหมด = กำไร 603 บาท (ไม่รวมทุน) – ❌ หากพลาดแม้แต่ 1 คู่ = บิลเสียทั้งใบ
ในบอลพาร์เลย์ ถ้าแม้แต่ 1 คู่หลุดไป คุณจะไม่ได้อะไรเลย ไม่ว่าคู่ที่เหลือจะเข้าแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นความแม่นยำในการเลือกคู่ คือหัวใจของการเล่นพาร์เลย์ให้ได้กำไรจริง
ตัวอย่างการคำนวณ พาร์เลย์ 3 คู่
ลองจินตนาการว่าคุณเลือกแทงพาร์เลย์ 3 คู่ ด้วยเงิน 100 บาท และเลือกค่าน้ำของแต่ละคู่ดังนี้:
- คู่ที่ 1 ค่าน้ำ 1.85
- คู่ที่ 2 ค่าน้ำ 1.90
- คู่ที่ 3 ค่าน้ำ 2.00
คู่ที่เลือก |
ค่าน้ำ | ผลแข่งขัน | ผลคูณสะสม |
ทีม A |
1.85 | ชนะ | 1.85 |
ทีม B | 1.90 | ชนะ |
1.85 × 1.90 = 3.515 |
ทีม C | 2.00 | ชนะ |
3.515 × 2.00 = 7.03 |
💰 คำนวณกำไร
- (7.03 – 1) × 100 = 603 บาท (ไม่รวมทุน)
- รวมทุน = ได้รับคืน 703 บาท
สถานการณ์ |
ได้ / เสีย | เหตุผล |
เข้า 3 คู่ |
✅ กำไร 603 บาท | ได้เต็มคูณต่อเนื่อง |
เข้า 2 คู่ แพ้ 1 คู่ | ❌ เสีย 100 บาท | บิลเสียทั้งใบทันที |
เข้า 1 คู่ แพ้ 2 คู่ | ❌ เสีย 100 บาท |
บิลเสียทั้งใบ |
แพ้หมดทั้ง 3 คู่ | ❌ เสีย 100 บาท |
ไม่ต้องพูดถึง |
สังเกตได้ว่า การเข้า 2 ใน 3 คู่ ก็ยังไม่ได้อะไรเลย นี่คือธรรมชาติของการแทงแบบพาร์เลย์ ที่เน้นความแม่น 100% เท่านั้นถึงจะได้กำไร
ข้อดีของการเดิมพันแบบพาร์เลย์
แม้จะมีความเสี่ยงสูงกว่าการแทงบอลแบบเดี่ยว แต่บอลพาร์เลย์ก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะข้อดีของมันคือ การทวีคูณกำไรจากเงินเดิมพันก้อนเล็ก ซึ่งถือเป็นเสน่ห์หลักของรูปแบบนี้
- 💰 กำไรคูณหลายเท่า: แทงเพียง 100 บาท ถ้าเลือกแม่น 3–5 คู่ กำไรสามารถพุ่งถึงหลักพันได้ทันทีโดยไม่ต้องลงเงินเยอะ
- 🔁 ลงทุนน้อย: ไม่ต้องใช้ทุนสูงก็มีโอกาสลุ้นกำไรมหาศาล เหมาะกับคนที่งบน้อยแต่อยากเล่นอย่างมีเป้าหมาย
- 🎯 ลุ้นมันต่อเนื่อง: พอคู่แรกเข้า ความตื่นเต้นจะเริ่มไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งเหลือน้อยคู่ยิ่งลุ้นสนุก เหมือน “โรลเลอร์โคสเตอร์ทางอารมณ์” ของสายเดิมพัน
- 🧠 ฝึกการวิเคราะห์: ใครที่เล่นพาร์เลย์จะมีแรงจูงใจในการวิเคราะห์มากขึ้น เพราะต้องเลือกหลายคู่ให้แม่น → ส่งผลดีในระยะยาวต่อสกิลการวิเคราะห์
การแทงบอลแบบพาร์เลย์คือทางลัดสู่กำไรมหาศาล — ถ้าคุณเลือกแม่นพอ หลายคนเริ่มจากทุน 50–100 บาท แล้วได้กำไรหลักพันมาแล้ว เพราะแค่ 3–4 คู่เข้า ก็เปลี่ยนทุกอย่างได้
ข้อเสียของการเดิมพันแบบพาร์เลย์ที่ควรระวัง
แม้บอลพาร์เลย์จะให้กำไรสูงจากทุนต่ำ แต่ความจริงที่ต้องยอมรับคือ โอกาสชนะบิลแบบเต็มมีน้อยลงตามจำนวนคู่ที่เพิ่มขึ้น ยิ่งเลือกหลายคู่ ความเสี่ยงก็ยิ่งทวีคูณ และความพลาดเพียงนิดเดียว อาจทำให้คุณเสียทั้งบิล
- 🚫 ต้องถูกทุกคู่เท่านั้นถึงจะได้เงิน ต่อให้เข้า 4 คู่ แค่แพ้ 1 คู่ บิลก็เสียทั้งหมด
นี่คือเงื่อนไขที่โหดแต่แฟร์ของการเดิมพันแบบพาร์เลย์ - 🔄 มีโอกาสเสพติดการลุ้นแบบหวังรวยเร็ว หลายคนหลงใหลความรู้สึกใกล้ได้ และแทงเพิ่มแบบไม่วางแผน จนกลายเป็นขาดทุนสะสม
- 🔍 ต้องวิเคราะห์หลายคู่ในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่ทุกคนจะมีข้อมูลหรือเวลาเพียงพอในการวิเคราะห์หลายคู่พร้อมกัน ความผิดพลาดมักเกิดจากการเลือก เพราะอยากให้ครบจำนวน
ถ้าคุณแทงพาร์เลย์ 5 คู่ → 4 คู่แรกเข้าแบบสวยงาม คู่สุดท้ายทีมคุณยิงนำ 1-0 จนถึงนาที 85 แต่ดันโดนตีเสมอ 1-1 นาทีสุดท้าย แค่ผลพลิกนิดเดียว กำไรหลักพันที่เกือบได้ ก็หายวับในพริบตา ไม่มีปลอบใจ ไม่มีเงินคืน ต้องยอมรับความเสี่ยงแบบเต็มๆ
เทคนิคเลือกคู่ พาร์เลย์ ให้เข้า
การแทงบอลพาร์เลย์ไม่ใช่เรื่องของดวง แต่คือการเลือกอย่างมีเหตุผลในทุกคู่ที่ใส่ลงบิล เพราะแค่พลาดคู่เดียว บิลก็เสียทั้งใบ ดังนั้นการคัดคู่จึงสำคัญไม่แพ้การวางเงิน
Checklist Before Build Slip
- ☑️ เลือกลีกที่คุณตามอยู่เป็นประจำ เพราะคุณจะรู้จักทีม ฟอร์ม และข่าวสารได้ลึกกว่าใคร → วิเคราะห์แม่นกว่า
- ☑️ เลี่ยงคู่ที่สูสีกันเกินไป ราคาที่ “ดึงดูด” มักมาพร้อมกับความไม่แน่นอน เช่น ราคาต่อเสมอควบครึ่งในเกมที่ทีมฟอร์มใกล้เคียง
- ☑️ อย่าเลือกคู่เยอะเกินไป เริ่มต้นจาก 2–3 คู่ก็พอ ถ้าอยากเพิ่มคูณ ค่อยเพิ่มจำนวนทีหลังเมื่อมั่นใจมากขึ้น
- ☑️ ตรวจไลน์อัพก่อนเตะทุกครั้ง มีนักเตะตัวหลักเจ็บ หรือพักตัวจริงเมื่อไหร่ ผลเกมอาจเปลี่ยนได้ทันที
มือใหม่ส่วนใหญ่มักใจร้อน อยากแทงให้มีตัวคูณเยอะ จึงเลือก 5–6 คู่ต่อบิล แนะนำให้เริ่มจากแค่ 2–3 คู่ แล้วพัฒนาไปตามความมั่นใจและข้อมูลที่มี
เลือกลีกที่เราดูประจำ: ช่วยเพิ่มความแม่น
หนึ่งในข้อผิดพลาดของนักแทงบอลพาร์เลย์มือใหม่คือ “เลือกลีกใหญ่เพราะคิดว่าง่ายวิเคราะห์” ทั้งที่ความจริงแล้ว ลีกที่เรารู้จักดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นลีกเล็กหรือลีกในเอเชีย กลับให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากกว่า เพราะคุณเข้าใจทีม ฟอร์ม ข่าว และจังหวะเกมได้ลึกกว่า
การเลือกลีกที่คุณดูประจำ เช่น พรีเมียร์ลีก, ลาลีกา, เจลีก หรือไทยลีก จะช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์ผลได้แม่นกว่าการไปสุ่มแทงจากลีกที่ไม่เคยดู เพราะฟุตบอลไม่ได้วัดแค่ชื่อทีม แต่ต้องดูทั้งสถิติย้อนหลัง, ความพร้อมนักเตะ, สภาพสนาม และแรงจูงใจ
ตัวอย่าง : ถ้าคุณดูเจลีกทุกสัปดาห์ คุณจะรู้เลยว่าบางทีมเล่นในบ้านโหดแค่ไหน หรือทีมรองบางทีมพลิกล็อกบ่อย ความเข้าใจเชิงลึกแบบนี้ไม่มีในสถิติหน้าเว็บ แต่คุณจะสัมผัสมันได้จากประสบการณ์การติดตามจริง
“ยิ่งคุณรู้จักทีมมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงในบิลของคุณก็ลดลงเท่านั้น” พาร์เลย์ไม่ใช่เรื่องของจำนวนคู่เยอะ แต่คือคุณเลือกคู่ที่คุณมั่นใจด้วยเหตุผล มากแค่ไหนต่างหาก
สรุป: พาร์เลย์ = บอลสเต็ป แต่ถ้าอยากได้กำไร ต้องรู้วิธีคิด
ถึงแม้คำว่า พาร์เลย์ และบอลสเต็ป จะฟังดูต่างกัน แต่จริงๆ แล้วทั้งสองหมายถึงการเดิมพันแบบเดียวกัน การรวมหลายคู่ไว้ในบิลเดียว แล้วหวังให้ทุกคู่เข้าเพื่อรับกำไรแบบคูณทบ ความต่างอยู่ที่ บริบท และระบบคำนวณ ที่ใช้ในเว็บไทยกับเว็บต่างประเทศเท่านั้น โดยเฉพาะถ้าเล่นกับเว็บที่แสดงค่าน้ำแบบ Decimal หรือ European Odds การเข้าใจวิธีคำนวณจึงเป็นหัวใจสำคัญ
การแทงพาร์เลย์ที่ดีไม่ใช่แค่การเลือกให้ครบจำนวนคู่ แต่มันคือการคัดให้แม่นทุกคู่ บนพื้นฐานข้อมูล ไม่ใช่อารมณ์ ยิ่งวิเคราะห์เฉียบเท่าไหร่ โอกาสบิลเข้าเต็มก็สูงขึ้นตาม เริ่มจากพาร์เลย์เบา ๆ 2–3 คู่ที่คุณมั่นใจ แล้วใช้ระบบคิดแบบมืออาชีพ คูณให้ถูก คิดให้แม่น
แล้วคุณจะเห็นว่า การแทงบอลพาร์เลย์ไม่ใช่แค่บิลรวม แต่คือเครื่องมือทำกำไรที่ทรงพลังถ้าคุณใช้เป็น
Q&A เกี่ยวกับบอลพาร์เลย์ที่มือใหม่มักถาม
❓ พาร์เลย์คืออะไร? ต่างจากบอลสเต็ปจริงไหม?
ตอบ: ไม่ต่างครับ “พาร์เลย์” คือชื่อเรียกในสากล ส่วน “สเต็ป” คือคำที่นิยมใช้ในไทย ทั้งสองคือการแทงบอลหลายคู่ในบิลเดียว โดยต้องถูกทั้งหมดจึงจะได้กำไร
❓ แทงพาร์เลย์ต้องกี่คู่ขึ้นไป?
ตอบ: ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 2 คู่ บางเว็บอาจกำหนดขั้นต่ำ 3 คู่ แต่ระบบจะคำนวณกำไรให้อัตโนมัติทันทีที่คุณเลือกครบ
❓ ถ้าพลาดแค่ 1 คู่ ยังได้เงินไหม?
ตอบ: ไม่ครับ บิลพาร์เลย์ต้องถูก “ทุกคู่” เท่านั้น ถ้าผิดแม้แต่คู่เดียวจะเสียทั้งใบ ไม่เหมือนบางรูปแบบเช่น Trixie หรือ Teaser ที่มีเงื่อนไขพิเศษ
❓ พาร์เลย์ต่างจาก Teaser, Trixie ยังไง?
ตอบ: Parlay คือรวมหลายคู่แล้วต้องเข้าให้หมด ส่วน Trixie, Yankee หรือ Teaser เป็นระบบรวมหลายชุดย่อย เช่น แทง 3 คู่ แต่แยกเป็นหลายบิลย่อย → มีโอกาสได้บางส่วนแม้พลาด 1 คู่ (แต่ก็จ่ายเบี้ยประกันเพิ่ม)
❓ จะรู้ได้ยังไงว่าค่าน้ำพอคุ้มกับความเสี่ยง?
ตอบ: ลองคูณค่าน้ำรวมดู เช่น 1.85 × 1.90 × 2.00 = 7.03 แสดงว่า ถ้าแทง 100 บาท จะได้ประมาณ 703 บาท ถ้าคิดว่าโอกาสถูกไม่เกิน 20–25% ก็ถือว่ายัง “คุ้มเสี่ยง” อยู่